i lvoe u
C.A.Kee _ Sarawut Bamrungpak

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อดิจิทัล

Social Networking หนุนโฆษณาออนไลน์








ปิยาณี รุ่งรัตน์ธวัชชัย
  Positioning Magazine   พฤษภาคม 2551

Social Networking เป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นเรื่องที่นักการตลาดทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องพูดถึง และนำมาพิจารณาว่าจะใช้งานอย่างไรให้เหมาะกับสินค้าและบริการของตัวเองได้ บ้าง เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์การตลาดสุดฮอตของยุคนี้ รวมทั้งมีการคาดการณ์อย่างต่อเนื่องว่าเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์จะเป็น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โฆษณาออนไลน์เติบโตอย่างน่าจับตาในปีนี้

โฆษณาออนไลน์ตัวเลขโตน้อยแต่กระแสคึกคัก

การสื่อสารผ่านเครือข่ายชุมชนออนไลน์ได้รับการตอบรับมากขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับโฆษณาออนไลน์ที่ติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้มาติดๆ เพื่อเพิ่มช่องทางใหม่ของการโฆษณา จากการสำรวจเกี่ยวกับความคิดเห็นในการสื่อสารยุคใหม่ พบว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคให้ความสนใจสื่อคอมพิวเตอร์มากที่สุด (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, เม.ย. 2551)

ทำให้โฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์ต่างๆ แม้จะเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มมีการคาดการณ์งบโฆษณาบนออนไลน์กันอย่างจริงจังในปีนี้ว่า จะมีส่วนแบ่งอย่างน้อย 1-3% ของมูลค่างบโฆษณาโดยรวม แม้จะเป็นตัวเลขเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับงบประมาณที่นำมากระจายลงบนโฆษณาออนไลน์ ก็ถือเป็นจำนวนเงินไม่น้อยที่ทำให้โฆษณาบนออนไลน์คึกคักขึ้นมาทันที

80,000-90,000 ล้านบาท งบโฆษณารวมของไทย ปี 2550
2-3% อัตราเติบโตของงบโฆษณาในปี 2551
2-3% คาดการณ์ส่วนแบ่งงบโฆษณาออนไลน์ของปี 2551 (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)
1% คาดการณ์ส่วนแบ่งงบโฆษณาออนไลน์ของปี 2551 (เอซี นีลเส็น)

ขณะที่ในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เป็นต้น มีสัดส่วนของโฆษณาออนไลน์ประมาณ 8-10% เมื่อเทียบกับงบโฆษณาโดยรวม

สมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์โตต่อเนื่อง
ปี 2550 มีจำนวนสมาชิกของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วโลกประมาณ 506 ล้านราย คิดเป็นอัตราการขยายตัว 36%

คาดว่าในประเทศไทยมีจำนวนสมาชิกของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ประมาณ 5 ล้านราย โดยเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้สูงสุดประมาณ 1 ล้านราย



โฆษณาออนไลน์กระจุกตัวในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (เม.ย.2551) คาดการณ์ว่า การเติบโตของสมาชิกเครือข่ายสังคมออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการตลาดโฆษณาออนไลน์ ดังจะได้จากการเติบโตกว่าเท่าตัวของมูลค่าตลาดโฆษณาออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ของไทย จากปี 2549-2550 และมีโฆษณาจำนวนไม่น้อยจะกระจายอยู่ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นประเภทเว็บไซต์ที่คนไทยนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน

9% มูลค่าโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมจากโฆษณาออนไลน์ทั้งระบบ ในปี 2549
20% มูลค่าโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมจากโฆษณาออนไลน์ทั้งระบบ ในปี 2550
50% คาดการณ์มูลค่าโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมจากโฆษณาออนไลน์ทั้งระบบในปี 2551
 

18-24 ปี ประชากรกลุ่มใหญ่สุดของสังคมออนไลน์
กลุ่มประชากรในช่วงอายุ 18-24 ปี เป็นกลุ่มผู้ใช้กลุ่มใหญ่สุด โดยมีสัดส่วนถึง 42%

การโฆษณาส่วนใหญ่จึงมาในรูปแบบการสร้างกระแสนิยมในตัวตราสินค้าของกลุ่ม สินค้าที่มีกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มสินค้าที่นิยมโฆษณาในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมมากที่สุด ได้แก่

1-กลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม
2-กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3-บริการด้านบันเทิงและท่องเที่ยว
4-บริการบัตรเครดิต

โฆษณาออนไลน์นิยมซื้อผ่านเอเยนซี่
70% ของผู้ประกอบการเลือกใช้วิธีการซื้อสื่อผ่านเอเยนซี่โฆษณา
30% ซื้อสื่อโดยตรงผ่านเว็บที่ให้บริการโฆษณาออนไลน์

เอเยนซี่ปรับตัวรับกระแสโฆษณาออนไลน์
สาเหตุหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องพึ่งพาเอเยนซี่ เนื่องจากขาดความเข้าใจในการใช้ช่องทางโฆษณาออนไลน์ ทำให้เอเยนซี่บางรายซึ่งไม่มีการนำเสนอช่องทางดังกล่าวแก่เจ้าของสินค้า ปัจจุบันก็เริ่มหันมาความสำคัญกับการโฆษณาออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

50% จำนวนเอเยนซี่ที่มีแผนกทำโฆษณาออนไลน์ของตัวเองในปี 2550
60-70% จำนวนเอเยนซี่ที่จะมีแผนกทำโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นในปี 2551

ประโยชน์ของโฆษณาบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าเว็บไซต์เครือข่ายสังคมจะเป็นช่องทางสร้างโอกาสสำคัญในการเติบโตของโฆษณาออนไลน์ โดยมีจุดแข็ง ดังนี้
- สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตามลักษณะของกลุ่มเครือข่ายสังคมที่หลากหลาย และซับซ้อน
- เป็นการโฆษณาโดยใช้พลังทางเครือข่ายสังคม ซึ่งเป็นลักษณะการบอกต่อปากต่อปาก (Words of Mouth) โดยจะสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ผ่านการบอกเล่าของสมาชิกในเครือข่าย สังคม ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกถูกบังคับให้ต้องรับฟัง
- ผู้ประกอบการสามารถใช้เว็บเครือข่ายสังคมเป็นเครื่องมือในการทำ CRM (Customer Relationship Management) เนื่องจากจะมีการแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บ ทำให้ผู้ประกอบการรับรู้ Feedback ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน









ขอขอบคุณ
ที่มา : www.positioningmag.com

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

หนังในดวงใจ

เรื่องย่อ Seasons Change



ฮัดเช้ย !










เวลาที่เราจาม เป็นเพราะมีคนคิดถึง หรือเพราะอากาศเปลี่ยนกันแน่นะ ?









ปลายฤดูหนาว... หลังเรียนจบ ม. 3 ป้อม ตัดสินใจสอบเข้าเรียนต่อที่









วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล









โรงเรียนที่สอนดนตรีเป็นวิชาชีพตั้งแต่ชั้น ม.ปลาย ...เพราะความรัก









... แต่ไม่ใช่เพราะรักดนตรีหรอก มันรัก ผู้หญิง ต่างหาก









เธอชื่อ ดาว ...สวย เรียบร้อย เรียนเก่ง เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งโรงเรียน รวมถึงไอ้ป้อมด้วย มันได้แต่แอบมองเธอห่างๆ มาตลอด 3 ปี พอรู้ว่าดาวมาสอบเข้าที่นี่ก็เลยตามมา ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักโรงเรียนนี้มาก่อนด้วยซ้ำ









แล้วป้อมก็สอบติด ! ด้วยพรสวรรค์การตีกลองระดับอัจฉริยะที่พระเจ้าประทานมาให้ ทดแทนความไม่เอาไหนในเรื่องอื่นๆของมัน









แต่เรื่องเริ่มวุ่นวายเอาตรงที่พ่อกับแม่ดันเข้าใจผิดว่าลูกชายสอบติด “ เตรียมหมอ ” ??? ป้อมก็เลยต้องปิดเรื่องโรงเรียนเป็นความลับไปพร้อมๆกับเรียนรู้โลกใบใหม่ที่แสนสนุก เพราะที่นี่เน้นหนักเรื่องดนตรีที่มันถนัดล้วนๆถึง 70% ส่วนที่เหลือถึงจะเป็นวิชาสามัญจำพวกเลข วิทย์ อังกฤษ ภาษาไทย ฯลฯ ที่เคยเป็นยาขมมาก่อน









แล้วจู่ๆไอ้ป้อมก็ดันทิ้งพรสวรรค์ด้านการตีกลองชุดไปสมัครเข้าวงออเคสตรา เพื่อหาทางใกล้ชิดกับดาวที่เป็นนักไวโอลินมือหนึ่งอยู่ในนั้น ...แม้นานๆทีถึงจะได้ตีกลองทิมปะนีสักแปะ แต่แค่นี้ก็มีความสุขแล้วกับการได้อยู่ใกล้ ผู้หญิง ที่ตัวเองแอบรักเข้าไปอีกนิด









...แต่ผ่านฤดูฝนเข้าไปแล้ว ความสัมพันธ์กับดาวก็ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน ในขณะที่ความเอาจริงเอาจังของ อ้อม เพื่อนซี้ที่นั่งตีฉาบอยู่ข้างๆ กลับทำให้ป้อมเริ่มสนใจดนตรีคลาสสิกขึ้นมาทีละนิด เธอคนนี้น่ะ สอบเข้ามาด้วยคะแนนทฤษฎีที่เป็นอันดับหนึ่ง แต่ฝีมือเล่นดนตรีกลับไม่เอาไหน จนอาจารย์ต้องเลื่อนให้มานั่งตีฉาบอยู่ข้างๆไอ้ป้อม









แล้ววันหนึ่ง ดาวก็หล่นจากฟ้ามาชวนให้ป้อมสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอกด้วยกัน นั่นแปลว่าป้อมต้องกลับไปฟื้นฟูพรสวรรค์ด้านดนตรีสากลของตัวเองขึ้นมาใหม่









เมื่อฤดูหนาวเวียนกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่เรื่องโรงเรียนก็ยังเป็นความลับกับที่บ้าน และถึงเวลาที่ป้อมต้องตัดสินใจ ...ระหว่างดาวกับอ้อม ...ระหว่างดนตรีสากลกับดนตรีคลาสสิก ไอ้ป้อมที่เคยใช้หัวใจเลือกทางเดินให้ชีวิตตัวเองมาตลอด ชักเริ่มมีปัญหา









...เพราะไม่แน่ใจหัวใจตัวเองจะเปลี่ยนแปลงเหมือนอากาศหรือเปล่า?







บทวิจารณ์หนังเรื่อง Seasons Change

หนังเรื่อง Season Change เป็นหนังที่เล่าถึงความรักในจิตใจของคนทั้งสามคนในหนึ่งปีแบ่งเป็นสามฤดู ร้อน ฝน หนาว เป็นหนังที่ดูแล้วทําให้รู้ว่าเรารักใครคนหนึ่งแต่เขาไม่ได้อยู่กับเราทุกๆวันหรือทําสิ่งดีๆให้กัน แต่อีกคนที่รักเราทําอะไรหลายๆอย่างให้เราตลอดไปไหนมาไหนด้วยกัน ในอีกด้านหนึ่งที่ไมีความสนุก ความตลกของอาจารย์สอนตีกล้องที่เข้ามาสร้างสีสันของหนังก็ทําไม่ซึ้งอะไรมากมายหนังเรื่อง Season Change ยังสอนให้รู้ว่าการเลือกที่จะทําในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทํา ทําในสิ่งที่ตัวเองรัก ดีที่สุดอย่างตัวที่ พ่อของป้อมไม่อยากให้ลูกเรียนดนตรีแต่ป้อมก็แอบเรียนแล้วพ่อป้อมมารู้ที่หลังตอนใกล้ๆเรียนจบแล้ว




ขอบขอคุณแหล่งข้อมูล
เรื่องย่อ

รูปภาพ
http://images.hunsa.com/Movie/news_082006/seasonchange_poster/Poster%20Theme%20Seasons%20Change%20-%20Low.jpg





วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภาพลวงตา

ภาพลวงตา


Tuesday, 16 December 2008 01:59

หลังจากที่ได้ดูภาพของ M.C. Escher ไปนะครับวันนี้เราลองมาดูภาพลวงตากันบ้าง

ประเภทของภาพลวงตานั้นมีประเภทที่่สร้างจากคณิตศาสตร์อยู่ด้วยนะครับเราลองมาดูกัน



เส้นตรงที่อยู่ตรงกลางเส้นไหนยาวกว่ากัน บนหรือล่าง?





เส้นตรงที่ลากจากซ้ายไปขวาตรงจริงๆหรือไม่?







สาวงามหรือคนแก่กันแน่?







นกหรือกระต่าย?





รูปกระโหลกจริงหรือไม่?





ช้างตัวนี้มีกี่ขากันเอ่ย?






รูป A หรือรูป B รูปไหนใหญ่กว่ากันแน่?




เส้นตรงแนวตั้งตรงจริงๆหรือไม่?





บันไดในรูปนี้จะขึ้นหรือลง?


วงกลมตรงกลางของรูปซ้ายหรือรูปขวาที่ใหญ่กว่า?



มีการทดลองอันหนึ่งน่าสนใจมากครับลองทำตามดู

ดูตัวอักษรข้างล่างนี้แล้วให้พูดชื่อสีออกมาครับ เช่น แดง ต้องพูดว่าดำครับ



เขียว เหลือง แดง แดง



ดำ ส้ม เขียว น้ำเงิน



ส้ม เหลือง แดง ดำ



ส้ม น้ำเงิน ดำ เขียว



เพื่อนๆน้องๆจะรู้สึกว่าพูดได้ไม่คล่องนักทั้งนี้เนื่องมาจากสมองซีกขวาจะสั่งให้เรา

พูดสีที่เห็นครับแต่สมองซีกซ้ายจะสั่งให้เราอ่านคำที่เขียนไว้แทน



ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

http://planet.kapook.com/takopwan/blog/viewnew/31737

http://tungblog.atikomtrirat.com/2008/01/miracle-part-7.html

http://my.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=364761&chapter=117

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Jastrow_illusion.svg

http://learners.in.th/blog/oscar/68154